วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บทสวดมนต์กะระณียะเตตตสุตตังและคำแปล

 

20081218102154_5234

กะระณียะเมตตะสุตตัง

        กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ                ยันตัง  สันตัง  ปะทัง อะภิสะเมจจะ
สักโก  อุชู  จะ  สุหุชู  จะ                         สุวะโจ  จัสสะ  มุทุ  อะนะติมานี
สันตุสสะโก จะ  สุภะโร จะ                       อัปปะกิจโจ จะ  สัลละหุกะวุตติ
สันตินทริโย  จะ  นิปะโก  จะ                    อัปปะคัพโภ กุเลสุ  อะนะนุคิทโธ
นะ จะ  ขุททัง  สะมาจะเร  กิญจิ                เยนะ  วิญญู  ปะเร  อุปะวะเทยยุง
สุขิโน  วา เขมิโน  โหตุ                            สัพเพ  สัตตา  ภะวันตุ  สุขิตัตตา
มนต์พิธี - หน้าที่ 64
เย เกจิ  ปาณะภูตัตถิ                              ตะสา  วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา
ทีฆา วา  เย  มะหันตา วา                        มัชฌิยา  รัสสะกา  อะณุกะถูลา
ทิฏฐา  วา เย  จะ อะทิฏฐา                       เย  จะ ทูเร  วะสันติ  อะวิทูเร
ภูตา  วา สัมภะเวสี วา                             สัพเพ  สัตตา  ภะวันตุ  สุขิตัตตา
นะ  ปะโร  ปะรัง นิกุพเพถะ                      นาติมัญเญถะ  กัตถะจิ  นัง  กิญจิ
พยาโรสะนา  ปะฏีฆะสัญญา                    นาญญะมัญญัสสะ  ทุกขะมิจเฉยยะ
มาตา  ยะถา  นิยัง  ปุตตัง                       อายุสา  เอกะปุตตะมะนุรักเข
เอวัมปิ  สัพพะภุเตสุ                              มานะสัมภาวะเย  อะปะริมาณัง
        เมตตัญจะ  สัพพะโลกัสมิง              มานะสัมภาวะเย  อะปะริมาณัง
อุทธัง  อะโธ  จะ ติริยัญจะ                     อะสัมพาธัง อะเวรัง  อะสะปัตตัง
ติฏฐัญจะรัง  นิสินโน  วา                        สะยาโน  วา  ยาวะตัสสะ  วิคะตะมิทโธ
เอตัง  สะติง  อะธิฏเฐยยะ                      พรัหมะเมตัง  วิหารัง  อิธะมาหุ
ทิฏฐิญจะ  อะนุปะคัมมะ  สีละวา              ทัสสะเนนะ  สัมปันโน
กาเมสุ  วิเนยยะ  เคธัง                          นะ หิ  ชาตุ  คัพภะเสยยัง  ปุนะเรตีติ ฯ

คำแปล

            กิจอันใดอันพระอริยเจ้า  บรรลุบทอันระงับกระทำแล้ว  กิจนั้นอันกุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์พึงกระทำ  กุลบุตรนั้นพึงเป็นผู้อาจหาญและซื่อตรงดี  เป็นผู้ว่าง่าย  อ่อนโยน  ไม่มีอติมานะ เป็นผู้สันโดษ  เลียงง่าย  เป็นผู้มีกิจธุระน้อย  ประพฤติเบากายจิต  มีอินทรีย์อันระงับแล้ว  มีปัญญาเป็นผู้ไม่คะนอง  ไม่พัวพ้นในสกุลทั้งหลาย  วิญญูชนติเตียนชนทั้งหลายอื่นได้ด้วยกรรมอันใด  ไม่พึงประพฤติกรรมอันนั้นเลย  (พึงแผ่ไม่ตรีจิตไปในหมู่สัตว์ว่า)  ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้มีสุข มีความเกษม มีตนถึงความสุขเถิด

          สัตว์มีชีวิตทั้งหลาย  เหล่าใดเหล่าหนึ่งมีอยู่ ยังเป็นผู้สะดุ้ง (คือมีตัณหา) หรือเป็นผู้มั่นคง (ไม่มีตัณหา)ทั้งหมดไม่เหลือ  เหล่าใดยาวหรือใหญ่  หรือปานกลาง  หรือสั้น  หรือผอม หรือพี  เหล่าใดที่เราเห็นแล้ว  หรือมิได้เห็น  เหล่าใดอยุ่ที่ไกล  หรือไม่ไกล  ที่เกิดแล้วหรือกำลังแสวงหาภพก็ดี  ขอสัตว์ทั้งปวงเหล่านั้น  จงเป็นผู้มีตนถึงความสุขเถิด  สัตว์อื่นอย่าพึงข่มเหงสัตว์อื่น  อย่าพึงดูหมิ่นอะไรๆ เขาในที่ไรๆเลย  ไม่ควรปรารถนาทุกข์แก่กันและกัน  เพราะความกริ้วโกรธและเพราะความคุ้มแค้น

          ประดุจดังมารดาถนอมลุกคนเดียว  ผู้เกิดในตนด้วยย่อมพร่าชีวิตได้ ฉันใด  พึงเจริญเมตตา มีในใจ ไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งปวง  แม้ฉันนั้น  บุคคลพึงเจริญเมตตา  มีในใจไม่มีประมาณ  ไปในโลกทั้งสื้น  ทั้งเบื้องบนเบื้องต่ำเบื้องเฉียงเป็นธรรมอันไม่คับแคบ ไม่มีเวร  ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น  ยืนอยู่ก็ดี  เดินไปก็ดี  นอนแล้วก็ดี  นั่งแล้วก็ดี เป็นผู้ปราศจากความง่วงนอนเพียงใด  ก็ตั้งสติอันนั้นไว้เพียงนั้น  บัณฑิตทั้งหลายกล่าวกิริยาอันนี้ว่า  ว่าเป็นพรหมวิหารในพระศาสนานี้

          บุคคลที่มีเมตตา  ไม่เข้าถึงทิฏฐิ  เป็นผู้มีศีล  ถึงพร้อมแล้วด้วยทัสสนะ(คือโสดาปัตติมรรค) นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก  ย่อมไม่ถึงความนอน(เกิด ในครรภ์อีก  โดยแท้ที่เดียวแล

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ภาพงานบุญ










india2553

dj100.25พาเที่ยวอินเดีย



หลวงพ่อพุทธเมตตาที่พุทธคยา

DSC08813 



 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons